ชนิดของคำศัพท์ ( Part of Speech )
1. Noun (คำนาม)
เป็นคำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ ทั้งที่มีรูปร่างเช่น โต๊ะ สมุด และไม่มีรูปร่างเช่น วัน เวลา อากาศ รวมทั้งชื่อของคน สัตวหรือสิ่งของ เช่น
- คน: man father lady
- สัตว์: dog cat bird
- สิ่งของ: city table month
- ชื่อคน: John Mary
- ชื่อสัตว์: Lassie Lucifer
- ชื่อสิ่งของ : Bangkok January
2. Pronoun (คำสรรพนาม)
เป็นคำที่ใช้เรียกแทนคำนามเพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวซ้ำ เช่น I, we, you, he, she, it หรือใช้แทนคำนามที่เราไม่ทราบว่าสิ่งนั้นเป็นอะไร หรือใคร เช่น someone, something
- แทนคำซ้ำ Mai is a beautiful woman. Mai is a popular singer. = Mai is a beautiful woman. She is a popular singer.
- ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร Something is missing. ไม่รู้ว่าอะไรหายไป
3. Verb (คำกริยา)
เป็นคำที่บอกอาการหรือการกระทำ ( action ) หรือบอกความเป็นอยู่ ( being ) หรือสภาวะความเป็นอยู่ ( state of being ) เช่น fly, is, am, seem, look.
- การกระทำ Birds fly. นกบิน
- ความเป็นอยู่ Danny is a boy. แดนนี่เป็นเด็กผู้ชาย
- สภาวะความเป็นอยู่ He looks good. เขาแลดูดี
4. Adjectives (คุณศัพท์)
เป็นคำที่อธิบายหรือขยาย noun หรือ pronoun ให้ไดัรายละเอียดเกี่ยวกับคุณสมบัติของสิ่งนั้นๆ เพิ่มขึ้น เช่น new, ugly, ill, happy, afraid, careless.
- He bought a new car. เขาซื้อรถใหม่.( new ขยาย car ซึ่งเป็น noun )
- They are ugly. พวกเขาน่าเกลียด ( ugly ขยาย they ซึ่งเป็น pronoun )
5. Adverb (วิเศษณ์ หรือ กริยาวิเศษณ์)
เป็นคำที่อธิบายหรือขยาย verb หรือ adjective หรือ adverb ด้วยกันเอง เช่น hard, fast, very
- He works hard. เขาเป็นคนทำงานหนัก (hard ขยาย works ซึ่งเป็น verb)
- He is very rich. เขาเป็นคนจนมาก ( very ขยาย rich ซึ่งเป็น adjective )
- He works very hard.เขาเป็นคนที่ทำงานหนักมาก ( very ขยาย hard ซึ่งเป็น adverb )
6. Preposition (คำบุพบท)
เป็นคำ หรือกลุ่มคำที่วางหน้า noun หรือ pronoun เพื่อแสดงว่าคำนามหรือสรรพนามนั้นเกี่ยวข้องกับคำอื่นๆในประโยคอย่างไรเช่น on, at, in, from, within
- I will see you on Monday. ฉันจะพบกับคุณในวันจันทร์
- She was waiting at the restaurant. เธอรออยู่ที่ร้านอาหาร
- There is a cockroach in my room. มีแมลงสาบตัวหนึ่งในห้องฉัน
- We must finish the project within a year. ราจะต้องทำโครงการนี้ให้เสร็จใน 1 ปี
7. Conjunction (คำสันธาน)
เป็นคำที่ใช้เชื่อม คำ กลุ่มคำ หรือประโยคเข้าด้วยกันเพื่อให้ความหมายสมบูรณ์ขึ้น เช่น and, but, therefore, beside, either..or
- John is rich and handsome .จอห์นเป็นคนรวยและรูปหล่อ
- Either you or she has to do this job. ไม่คุณก็เธอที่จะต้องทำงานนี้
8. Interjection (คำอุทาน)
เป็นคำอุทานที่แสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้น โดยไม่เกี่ยวข้องกับคำอื่นๆ ใน ประโยคเลย เช่น Oh God! , WOW, Hurrah
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น